ในแวดวงการลงทุนทางการเงิน มีการให้บริการบริหารเงินลงทุนที่โดดเด่นอยู่ 2 รูปแบบ ได้แก่ ระบบการจัดการเงินแบบสัดส่วน (PAMM) และระบบจัดการบัญชีหลายบัญชี (MAM) ซึ่งทั้งสองตัวเลือกตอบสนองความต้องการเฉพาะตัวของนักลงทุนและเทรดเดอร์
อ่านต่อเพื่อค้นพบความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง PAMM และ MAM
PAMM คืออะไร
PAMM เป็นรูปแบบการบริหารกองทุนที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเลือกผู้จัดการกองทุนผู้เชี่ยวชาญเพื่อดูแลเงินทุนของนักลงทุนหลายรายร่วมกัน ด้วยการให้บริการนี้ ผู้จัดการกองทุนจะใช้เงินทุนรวมนี้สำหรับการซื้อขาย
ผลตอบแทนและการขาดทุนที่เกิดจากการซื้อขายเหล่านี้จะถูกกระจายไปยังผู้ลงทุนตามสัดส่วนเงินทุนเริ่มแรกของพวกเขาในภายหลัง
ข้อดีของบัญชี PAMM
การจัดการบัญชี PAMM นั้นเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนมือใหม่ เนื่องจากช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงกลยุทธ์และประสบการณ์ของผู้จัดการกองทุนมืออาชีพโดยไม่ต้องตัดสินใจซื้อขายด้วยตนเอง นอกจากนี้ การจัดการกองทุน PAMM ยังช่วยให้นักลงทุนที่มีเงินทุนไม่มากสามารถเข้าร่วมในการซื้อขายขนาดใหญ่ได้ และยังช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน
ยิ่งไปกว่านั้น ความโปร่งใสที่มีอยู่ในบัญชี PAMM ช่วยให้ผู้ลงทุนได้รับข้อมูลเกี่ยวกับผลงานของผู้จัดการกองทุนที่ตนเลือกอยู่เสมอ โดยค่าธรรมเนียมการบริหารกองทุนจะระบุไว้อย่างชัดเจนตั้งแต่ต้น และนักลงทุนยังสามารถถอนเงินได้เมื่อต้องการ ความโปร่งใสของบัญชี PAMM ยังทำให้ผู้ลงทุนสามารถติดตามผลงานและประวัติการซื้อขายของผู้จัดการกองทุนได้ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้บริการ
MAM คืออะไร
ระบบการจัดการเงินแบบ Multi-Account Manager (MAM) ตามชื่อ คือการที่ผู้จัดการกองทุนดูแลบัญชีแยกของนักลงทุนแต่ละราย
ซึ่งแตกต่างจากรูปแบบ PAMM ที่รวมเงินทุนเข้าด้วยกัน โดยในระบบ MAM ผู้จัดการกองทุนสามารถบริหารบัญชีย่อยหลายบัญชีได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้เพียงบัญชีหลักบัญชีเดียว ผู้จัดการบัญชี MAM จะได้รับคอมมิชชั่นจากการซื้อขายของลูกค้า รวมถึงค่าธรรมเนียมผลงานและค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการ
ข้อดีของบัญชี MAM
บัญชี MAM ช่วยให้ผู้ลงทุนได้รับประสบการณ์การซื้อขายที่บริหารจัดการอย่างมืออาชีพ ช่วยให้พวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากความรู้และความเชี่ยวชาญของผู้ซื้อขายที่มีประสบการณ์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนที่ไม่มีเวลาหรือความเชี่ยวชาญในการจัดการกับความซับซ้อนของการซื้อขาย ด้วยบัญชี MAM ช่วยให้ผู้จัดการสามารถดำเนินการซื้อขายให้กับลูกค้าหลายรายพร้อมกันได้ ลดข้อผิดพลาดและเพิ่มประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ บัญชี MAM ยังมอบความยืดหยุ่นเป็นพิเศษให้กับทั้งผู้ซื้อขายและนักลงทุน นักลงทุนสามารถตรวจสอบบัญชีย่อยของตนเองได้แบบเรียลไทม์ ขณะที่ผู้จัดการบัญชี MAM สามารถปรับเงื่อนไขการซื้อขายให้เหมาะกับความต้องการที่หลากหลายได้ นอกจากความยืดหยุ่นแล้ว บัญชี MAM ยังเน้นที่การกระจายความเสี่ยงและความคุ้มค่าในการลงทุน นักลงทุนสามารถจัดสรรการลงทุนของตนไปยังบัญชีย่อยหลายบัญชี เพื่อกระจายความเสี่ยงและลดผลกระทบจากการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้
ความแตกต่างระหว่าง PAMM และ MAM คืออะไร?
เมื่อมองเผิน ๆ อาจดูเหมือนว่า PAMM และ MAM เป็นการให้บริการการจัดการเงินที่คล้ายกัน เพราะทั้งสองต่างก็เป็นรูปแบบของการบริหารเงินโดยผู้เชี่ยวชาญในนามของนักลงทุนหลายราย แต่ความแตกต่างหลักประการหนึ่งคือ โครงสร้างบัญชี และ แนวทางการจัดการ
นี่คือตารางเปรียบเทียบความแตกต่างบางส่วนระหว่าง PAMM และ MAM เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจได้ดีขึ้น:
PAMM | MAM | |
คำนิยาม | แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ผู้เชียวชาญบริหารเงินทุนรวมจากนักลงทุนหลายราย | แพลตฟอร์มที่ผู้เชี่ยวชาญบริหารหลายบัญชีแยกตามความต้องการ ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของนักลงทุนแต่ละราย |
โครงสร้างบัญชี | เงินทุนของนักลงทุนถูกรวมเป็นกองกลางเพื่อให้ผู้จัดการกองทุนทำการซื้อขาย | มีบัญชีย่อยหลายบัญชี โดยแต่ละบัญชีมีกลยุทธ์และเลเวอเรจเฉพาะตัว และบริหารโดยผู้จัดการกองทุนผ่านบัญชีหลัก |
เหมาะสำหรับ | นักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการใช้กลยุทธ์จากผู้เชี่ยวชาญโดยไม่ต้องซื้อขายเอง | นักลงทุนที่ต้องการกลยุทธ์การซื้อขายแบบเฉพาะตัวตามเป้าหมายทางการเงินและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ |
ข้อดี | ใช้ประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมการซื้อขายขนาดใหญ่บริหารเงินลงทุนได้อย่างโปร่งใสและยืดหยุ่น | มีความยืดหยุ่นในการบริหารบัญชีอย่างเหนือชั้นการซื้อขายสะท้อนความต้องการและระดับความเสี่ยงของนักลงทุนแต่ละรายการติดตามประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์ |
ความโปร่งใสและการควบคุม | นักลงทุนสามารถติดตามผลงานและประวัติการซื้อขายของผู้จัดการที่ตนเลือกได้อย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่สามารถควบคุมการซื้อขายของตนได้ | นักลงทุนสามารถติดตามผลการดำเนินงานแบบเรียลไทม์ และมีบทบาทในการบริหารจัดการบัญชีของตนเอง4o |
บทสรุป
PAMM และ MAM ต่างเป็นรูปแบบบัญชีที่เปิดโอกาสให้มีการรวมและบริหารเงินลงทุนจากนักลงทุนหลายราย คุฯสามารถสัมผัสข้อดีของบัญชี MAM และ PAMM ของ Vantage ได้เมื่อคุณสมัครเป็น Vantage IB กับเรา
ทั้งบัญชี Vantage MAM และ PAMM ของ Vantage มอบเครื่องมือการซื้อขายระดับมืออาชีพและระบบการจัดการบัญชีที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้จัดการกองทุนสามารถรวบรวมการลงทุนจากลูกค้าหลายราย จัดการบัญชีหลายบัญชี และตั้งค่ากลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสมได้อย่างง่ายดาย
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนรายบุคคลที่ต้องการฟีเจอร์เพิ่มเติมหรือ เป็นเทรดเดอร์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมยกระดับธุรกิจของคุณ บัญชี MAM และ PAMM ของ Vantage อาจเป็นตัวเลือกที่ใช่สำหรับคุณ ติดต่อเรา เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมได้แล้ววันนี้
Disclaimer: Any information/content/material is intended for educational purposes whereas Vantage does not represent or warrant that the material provided here is accurate, current, or complete and cannot be held responsible for any miscalculation/mistake or omission. Any reliance on such information is strictly at your own risk. The information provided here, whether from a third party or not, is not to be considered as a recommendation; or an offer to buy or sell; or the solicitation of an offer to buy or sell any financial instruments; or to participate in any specific trading strategy and/or as investment advice. Any research provided does not have regard to the specific investment objectives, financial situation and needs of any specific person who may receive it. Please seek advice before making any trading decision. Past performance is not an indication of future performance. The information provided is not intended for distribution to, or use by, any person in any country where such distribution/use would be contrary to local laws.